โปรแกรมการจัดการการก่อสร้าง (Construction Management Software) คืออะไร ?

โปรแกรมงานก่อสร้างไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ทีมต่าง ๆ ได้ริเริ่มนำแอปพลิเคชั่นและเครื่องมือด้านเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนต่าง ๆ ของโครงการ ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้าง ขั้นออกแบบ ไปจนถึงขั้นดำเนินงานก่อสร้าง แต่ความต้องการซอฟต์แวร์การจัดการในโครงการก่อสร้าง โดยเฉพาะโซลูชันที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่โครงการในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น และบริษัทต่าง ๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันที่สูงขึ้นในการปรับปรุงคุณภาพงานและผลประกอบการจากการก่อสร้าง

เทคโนโลยีที่เหมาะสม (รวมถึงซอฟต์แวร์) สามารถช่วยให้บริษัทก่อสร้างทำทุกอย่างได้ และคนในวงการอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี จากการวิจัยโดย USG ร่วมกับ U.S. Chamber of Commerce Commercial Construction Index (CCI) พบว่า 78% ของผู้รับเหมาเชื่อว่าเทคโนโลยีขั้นสูงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานได้ และ 75% เชื่อว่าสามารถปรับปรุงการจัดแผนดำเนินงานของโครงการได้ ทั้งหมดนี้เพื่อจะบอกคุณว่า การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่ก่อนที่จะรีบนำเครื่องมือใหม่มาใช้ในทันทีนั้น สิ่งที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าจริงๆ แล้วซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างคืออะไร นั่นคือสิ่งที่เราจะนำมาพูดคุยกันในส่วนถัดไปนี้  โดยบทความนี้คาดหวังจะให้คุณได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างในเชิงลึก รวมถึงคุณสมบัติที่ควรพิจารณาและวิธีเลือกซื้อซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับบริษัทของคุณ

ความหมายของ โปรแกรมการจัดการการก่อสร้าง (Construction Management Software)

โปรแกรมการจัดการการก่อสร้างเป็นพื้นฐานในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีภายในโครงการที่มีการพัฒนาให้สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้มีขีดจำกัดเพียงแค่ความสามารถในการจัดการโครงการ และช่วยให้บริษัทก่อสร้างสามารถดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การจัดการงบประมาณ การรับรองคุณภาพและความปลอดภัย การกำหนดแผนงานและระยะเวลา การสื่อสารและการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสำนักงาน ภาคสนามและส่วนงานอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ยิ่งไปกว่านั้นซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำให้งานของคุณมีความอัตโนมัติและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยจะมาเชื่อมต่อเวิร์กโฟลว์และข้อมูลตลอดระยะเวลาของโครงการ เพื่อให้ทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากกว่าเดิม

คุณสมบัติที่สำคัญของ โปรแกรมการจัดการการก่อสร้าง

สิ่งเหล่านี้ คือคุณสมบัติและความสามารถหลักบางประการที่คุณควรทราบ เมื่อคุณต้องการเลือกซื้อซอฟต์แวร์การจัดการโครงการก่อสร้างสักตัว

1) ระบบคลาวด์ (Cloud-based)

โซลูชันการจัดการการก่อสร้างสมัยใหม่ต่างทำงานอยู่บนระบบคลาวด์ ดังนั้นทีมที่ใช้งานจะได้รับประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งจากการมีแหล่งข้อมูลจริงเพียงแหล่งเดียว (Single source of truth) การอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่โดยอัตโนมัติ ตลอดจนความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้จากทุกที่ สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่ามีความสำคัญต่อแนวทางการก่อสร้างที่เป็นไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วทีมงานในโครงการก็จะกระจายตัวอยู่ตามสถานที่ที่แตกต่างกันออกไปทีมงานบางส่วนอาจนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ ขณะที่บางส่วนรีโมทมาจากที่อื่นในขณะเดียวกัน ผู้ที่อยู่หน้างานภาคสนามอาจอยู่ในไซต์งานที่ห่างไกลหรือลึกลงไปในชั้นใต้ดินก็เป็นได้

ดังนั้นระบบคลาวด์จะมาเป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ทุกคนที่ทำงานในโครงการจะสามารถเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดก็ตามและเนื่องจากโซลูชันบนระบบคลาวด์เป็นแหล่งข้อมูลจริงเพียงแหล่งเดียว (Single source of truth) นั่นจึงทำให้ทุกอย่างมีการรวมศูนย์อยู่บนแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น ส่งผลให้ทีมงานสามารถทำงานอยู่บนฐานข้อมูลเดียวกันได้ สิ่งสุดท้าย คือ ระบบคลาวด์จะมีการอัปเดตโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้ใช้งานซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอและด้วยโซลูชันการทำงานบนระบบคลาวด์ที่ได้กล่าวถึงไปนี้ คุณจึงไม่ต้องกังวลอีกเลยว่าจะพลาดฟีเจอร์หลักหรือการอัปเดตความปลอดภัยที่จำเป็นอีกต่อไป

1920x1080 Subcontractor win press release v2 740x416

2) ให้ทุกคนในทีมของคุณได้เริ่มใช้งานแพลตฟอร์มใหม่ไปพร้อมกัน

หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มการจัดการการก่อสร้างที่ให้บริการโซลูชั่นแบบ end-to-end ตลอดระยะเวลาโครงการโปรดตระหนักว่างานก่อสร้างไม่ได้เกิดขึ้นอย่างแบ่งแยก ขั้นตอนและกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ — ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบขั้นต้นไปจนถึงการดำเนินการ — ล้วนเชื่อมโยงกัน ดังนั้นคนที่ทำงานจะต้องเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยตั้งแต่นักออกแบบและวิศวกร ไปจนถึงเจ้าของโครงการและผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม ไปจนถึงผู้รับเหมาเฉพาะทางและผู้ประกอบการค้า ทุกคนควรเข้าใจและเห็นภาพตรงกัน ถ้าหากคุณใช้ซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างที่เหมาะสม นั่นก็จะทำให้สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องง่าย โดยการให้สมาชิกในทีมแต่ละคนมีเครื่องมือและการเข้าถึงข้อมูลที่เหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ของพวกเขา

3) ความเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน (User-friendly)

เพื่อให้สอดคล้องกับซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้งานมีบทบาทต่างกัน สิ่งสำคัญคือ คุณต้องจำไว้ว่าผู้ร่วมงานแต่ละทีม ต่างมีทักษะด้านการใช้งานซอฟต์แวร์ในระดับที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกโซลูชันที่ใช้งานง่าย หน้าตาอินเทอร์เฟซคำสั่งต่าง ๆ ควรมีความเรียบง่ายและเรียนรู้ได้เอง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจวิธีในการเข้าถึงข้อมูลและคุณลักษณะได้สะดวกตามที่พวกเขาต้องการและสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความเป็นมิตรกับผู้ใช้ต้องมีอยู่บนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะบนมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็ตาม

december autodesk construction cloud updates

4) ยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ในแบบของคุณ

ไม่มีโครงการใดที่จะเหมือนกันเสมอไป แม้ว่าขั้นตอนทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น รายงานประจำวัน RFI และการส่ง Submittal ที่ดูเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ แต่ในโครงการที่ต่างกันก็จะมีความแตกต่างและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ด้วยด้วยเหตุนี้ ซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างของคุณจึงต้องมีคุณสมบัติที่สามารถดำเนินการตามกระบวนการที่คล้ายคลึงกันได้ในภาพรวม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่นและคุณได้ปรับแต่งให้เข้ากับการทำงานในโครงการประเภทต่าง ๆ

autodesk build launch to connect field and office

5) ผสานรวมกับโซลูชันที่เหมาะสม

จากที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า โครงการก่อสร้างไม่ได้เกิดขึ้นอย่างแบ่งแยก เพราะบุคลากรและระบบต่าง ๆ คือส่วนสำคัญที่ทำให้โครงการสำเร็จพร้อมส่งมอบ และส่วนประกอบเหล่านี้มีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงกันไว้อย่างดี เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างไม่มีสะดุด นี่คือที่มาของการบูรณาการการก่อสร้าง ซึ่งเครื่องมือที่คุณใช้ควรมีความสามารถให้คนทำงานระหว่างทีม “พูดคุย” กันได้ และเวิร์กโฟลว์ต้องเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ข้อมูลสามารถไหลผ่านระบบ และส่งต่อจากเฟสหนึ่งไปยังอีกเฟสหนึ่งได้อย่างราบรื่น ทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีข้อมูลใดหลุดลอดผ่านช่องโหว่นี้ไปได้ อีกทั้งทีมงานส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้รับการแจ้งเตือนให้ทราบและช่วยให้สามารถตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล

6) ความปลอดภัย

แต่ละโครงการมีข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้นซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างของคุณจะต้องจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ที่ดีควรมีระบบที่มีประสิทธิภาพในการอนุญาตผู้ใช้งาน ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการเปิดสิทธิ์ใช้งานและจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน

ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการใช้โปรแกรมการจัดการการก่อสร้าง

สำหรับตอนนี้ที่คุณได้รู้จักกับพื้นฐานของซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างและคุณสมบัติที่ควรมีแล้ว คราวนี้เราจึงอยากให้คุณมาร่วมค้นพบกับประโยชน์ที่คุณและทีมงานจะได้สัมผัส เมื่อคุณเลือกใช้โซลูชันที่ถูกต้อง

1) ช่วยประหยัดเวลาและเงินของคุณ

เราเข้าใจดีว่า ในการเริ่มต้นนำซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างมาใช้จะต้องใช้เงินลงทุน แต่สิ่งที่คุณจะได้รับจากการประหยัดเวลาและเงินของคุณนั้นคุ้มค่ากว่า จากผลการวิจัยของ FMI พบว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างใช้เวลาราว “35%  (หรือมากกว่า 14 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ไปกับกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประสิทธิผล ทั้งจากการค้นหาข้อมูลโครงการ การแก้ไขข้อขัดแย้ง รวมถึงการรับมือกับข้อผิดพลาดและการทำงานที่ซ้ำซ้อน” ซึ่งซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างจะมาช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับงานต่าง ๆ และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อผิดพลาดจากคนทำงาน (Human error) หรือข้อมูลที่ตกหล่นไปโซลูชันนี้ยังช่วยให้ทีมงานทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ดังนั้นงานต่าง ๆ จะเสร็จไวขึ้นและคนที่เกี่ยวข้องก็จะมีเวลาเหลือ เพื่อไปใช้ทุ่มเทให้กับกิจกรรมที่มีมูลค่าและสร้างผลกำไรได้มากกว่า

2) ช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกัน

การใช้ระบบคลาวด์และการผสานรวมระบบต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน มีส่วนช่วยส่งเสริมให้การทำงานร่วมกันในทีมดีขึ้น ทั้งคนทำงาน ข้อมูล และเวิร์กโฟลว์ถูกรวมไว้ที่ศูนย์กลางบนแพลตฟอร์มการจัดการการก่อสร้าง เสมือนว่าทุกคนได้ทำงานอยู่ในที่เดียวกัน แพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะขจัดภาวะไซโลข้อมูล (Data Silo) และทำให้ทุกอย่าง (และทุกคน) ซิงค์ตรงกัน ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมในท้ายที่สุด

3) สิ่งที่เพิ่มเติมไปยังโปรแกรมที่มีคุณภาพ

ซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างสามารถปรับปรุงคุณภาพโครงการของคุณให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับประสบการณ์ของทุกคนที่เกี่ยวข้องการแสดงผลที่ชัดเจนขึ้น ประสิทธิภาพ และการทำงานร่วมกัน ล้วนเป็นสิ่งที่นำไปสู่การจัดทำเอกสารที่ดียิ่งขึ้น ข้อผิดพลาดที่น้อยลง และการสนับสนุนที่ดีขึ้นสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องในโครงการ ทั้งหมดล้วนแสดงถึงผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากขึ้น

4) นำไปสู่การตัดสินใจที่ดีขึ้น

โซลูชันการจัดการการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ ทำให้คุณเห็นข้อมูลภาพกว้างและข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบการตัดสินใจได้มากขึ้นไม่ว่าคุณจะต้องทำการตัดสินใจในโครงการเฉพาะทาง หรือกำลังทำการตัดสินใจขั้นสูงและเชิงกลยุทธ์ในทุกโครงการของคุณ ซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างที่คุณเลือกใช้ควรสามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่คุณได้

Cloud Collaboration

วิธีเลือกซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างที่ดีที่สุด

พร้อมที่จะเลือกโซลูชันการจัดการการก่อสร้างใหม่แล้วหรือยัง? ขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยให้คุณแน่ใจว่า คุณได้เลือกซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดและกระบวนการทำงานของคุณจะดำเนินไปอย่างราบรื่น

1) ตรวจสอบเครื่องมือปัจจุบันของคุณที่มีอยู่

ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือ เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาใด ๆ คุณควรตรวจสอบเทคโนโลยีหรือโปรแกรมที่คุณมีอยู่ภายในองค์กรแล้วทำสรุปรายการและประเมินเครื่องมือเหล่านั้น เพื่อพิจารณาว่าควรเก็บเครื่องมือใดไว้และโซลูชันใดที่ควรมีการปรับปรุงใหม่บ้าง อาจเริ่มโดยสอบถามจากทีมงานของคุณเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่พวกเขาใช้งานอยู่และสิ่งที่ยังขาดเหลือ รวมถึงคุณเองก็ควรพิจารณาเกี่ยวกับฟังก์ชันต่าง ๆ ภายในโซลูชันที่คุณมีด้วย ซึ่งถ้าหากคุณกำลังใช้หลายแอปพลิเคชั่นแต่กลับทำงานเฉพาะได้เพียงงานเดียว เป็นไปได้ไหมที่มันจะถูกแทนที่ด้วยโซลูชันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนรวมอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวหรือหากคุณมีแอปพลิเคชั่นใดที่จำเป็นต้องใช้ต่อไปจริง ๆ คุณควรจดบันทึกและตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปเหล่านั้นสามารถใช้ทำงานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ได้จริง นี่ถือเป็นการช่วยอุดช่องโหว่ในเทคโนโลยีที่คุณมี ไม่ว่าคุณยังมีกระบวนการทำงานแบบแมนนวลอยู่หรือไม่? คุณพบว่าตัวเองต้องป้อนข้อมูลเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีกในระบบต่าง ๆ หรือไม่? สิ่งที่กล่าวมานี้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณต้องการซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย เพื่อมาช่วยสร้างความอัตโนมัติและผสานเวิร์กโฟลว์ของคุณเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อคุณทำการวิจัยภายในองค์กรเสร็จแล้ว ให้รวบรวมสิ่งที่คุณค้นพบและนำมันไปใช้ เพื่อประเมินตัวเลือกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด

2) เลือกตัวแทนจำหน่ายที่พร้อมจะก้าวไปกับคุณ

โครงการก่อสร้างประกอบไปด้วยทีมงานจำนวนมากและส่วนขับเคลื่อนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการเริ่มต้นลงมือและดำเนินการ จึงควรเป็นไปด้วยความรอบคอบ อาจมีโอกาสที่ทีมงานของคุณจะไม่นำเครื่องมือนี้ไปใช้ในการทำงานของพวกเขา ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นด้วยโปรแกรมนำร่อง (Pilot Program) เพื่อให้ตัวแทนจำหน่ายของคุณทำการทดสอบการทำงานก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อซอฟต์แวร์ ความปลอดภัยถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่ง หากคุณกำลังดำเนินการขอข้อเสนอ (RFP: Request for proposal) อย่าลืมสอบถามให้กระจ่างเกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยของตัวแทนจำหน่ายด้วย

3) การมีส่วนร่วมกับผู้เกี่ยวข้องในโครงการของคุณ

ผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ตัวจริงควรมีส่วนร่วมอยู่ในกระบวนการคัดเลือกและนำไปใช้งาน นั่นก็เพราะการมีส่วนร่วมของพวกเขาไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าโซลูชันใหม่นี้ จะถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวาง ดังนั้น การจัดซื้อที่มาจากความเห็นของผู้ใช้งานจริงและเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส จึงเป็นสิ่งสำคัญในลำดับต้น ๆ โดยรับข้อมูลของพวกเขาก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ และดูว่าผู้ที่เกี่ยวข้องพอใจกับโปรแกรมมากน้อยเพียงใด เมื่อคุณทำการตัดสินใจแล้ว สิ่งที่ควรทำต่อมาคือ ให้จัดการฝึกอบรมผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ทุกคนอย่างทั่วถึง เพื่อให้พวกเขามีความรู้และทรัพยากรที่จำเป็นต่อการเริ่มต้น และดำเนินงานในระยะยาวอย่างประสบความสำเร็จที่จะพัฒนาไปสู่ขั้นของการสร้างผู้นำด้านโปรแกรมขององค์กร ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมและช่วยให้ความรู้กับบุคลากรกลุ่มอื่น ๆ ภายในองค์กรและส่งเสริมให้คนหน้าใหม่เข้าร่วมไปด้วยกัน

ทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องจำไว้ว่าการนำเทคโนโลยีใหม่มาปรับใช้และทำให้เกิดผลสำเร็จนั้นจำเป็นต้องใช้เวลา ดังนั้น การกำหนดแผนให้สอดรับกับความเป็นจริง เพื่อให้ปัญหาถูกคลี่คลายออกมาแก้ไข และจะได้พบกับโซลูชั่นที่เหมาะสมกับองค์กรได้

"ซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้าง คือ สิ่งจำเป็นในการทำงานปัจจุบัน"

Autodesk Construction Cloud Products

งานที่มีความท้าทาย การใช้ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่สามารถทำให้งานบรรลุได้
Autodesk Construction Cloud จะช่วยให้คุณสามารถสร้างชิ้นงานได้ดีขึ้นในอินเตอร์เฟซที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย

 

AUTODESK®
DOCS

Connect Data, Workflow and team

Autodesk Docs ที่รวมอยู่ใน Autodesk AEC Collection จะช่วยให้คุณสามารถทำงานจากแหล่งข้อมูลเดียวที่มีกระบวนการทำงานร่วมกันมากขึ้นและข้อมูลที่เชื่อมต่อตั้งแต่การออกแบบจนถึงการก่อสร้าง

AUTODESK®
BIM COLLABORATE

Coordinate teams and models from one place.

Autodesk BIM Collaborate ช่วยให้ทีมงานสามารถตรวจสอบการทำงานจากแหล่งข้อมูลเดียวกัน ทั้งในสำนักงานและหน้างานก่อสร้าง อีกทั้งช่วยจัดการเชื่อมโยงโมเดลระหว่างหน่วยงานให้ทำงานตรวจสอบร่วมกันได้ ทำให้การประสานงานรวดเร็วและถูกต้องแม่นยำมากขึ้น

AUTODESK®
BIM COLLABORATE PRO

ผู้ใช้งานสามารถร่วมกันออกแบบ, ดำเนินการตรวจสอบการออกแบบ และประสานงานโมเดลโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถทำงานร่วมกันได้ในทุกเครื่องมือออกแบบ ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถร่วมกันปรับปรุงคุณภาพการออกแบบ และความสามารถในการทำงานจากสำนักงานเพื่อส่งไปยังหน้างานก่อสร้างได้ทันที ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้อยู่ในชุดซอฟต์แวร์ Autodesk Revit, Autodesk Civil 3D , Autodesk Plant 3D

AUTODESK®
BUILD

ซอฟต์แวร์การจัดการภาคสนามและโครงการที่ครอบคลุมด้วยชุดเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อได้ สำหรับผู้ออกแบบ และวิศวกรที่อยู่หน้างาน ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AUTODESK®
TAKEOFF

ความสามารถในการถอดแบบ2 มิติที่แม่นยำและการถอดปริมาณงานจากโมเดล 3 มิติได้อัตโนมัติด้วยระบบการทำงานบน Autodesk Construction Cloud                                                       

Connect your teams, data and workflows

with Autodesk Construction Cloud.

acc product

การนำซอฟต์แวร์การจัดการการก่อสร้างใหม่มาใช้ในการทำงานต้องอาศัยทั้งระยะเวลา ความพยายาม และความมุ่งมั่นเรียนรู้แต่นี่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์กรให้พร้อมแข่งขัน ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการก่อสร้างในปัจจุบัน ดังนั้นหากเครื่องมือที่คุณใช้อยู่ยังห่างไกลจากความต้องการของคุณแล้วล่ะก็ เราอยากให้คุณลองทำตามขั้นตอนด้านบนที่เราได้แนะนำไว้ เพื่อเริ่มต้นใช้งานโซลูชันที่ใหม่กว่า ดีกว่า และเติบโตไปพร้อมกันกับเรา

autodesk committment to connected construction 1 740x416

Reference : https://constructionblog.autodesk.com/construction-management-software/


ซินเนอร์จี้ซอฟต์ ตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการและถูกต้องในประเทศไทยของออโตเดสก์ สำหรับท่านที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถสอบถามได้ทางเจ้าหน้าที่ซินเนอร์จี้ซอฟต์ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือ 085-323-5453, 02-692-2575 หรือทาง Online Store ทางเรายินดีให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ

ใบเสนอราคา PDMC
คอร์สฝึกอบรม
อบรมออนไลน์
line synergysoft
synergysoft online store
ติดต่อซินเนอร์จี้ซอฟต์

บทความที่เกี่ยวข้อง

Autodesk Gold Partner

บริษัท ซินเนอร์จี้ซอฟต์ โซลูชั่น จำกัด

135/58 อาคารอมรพันธ์ 205 ทาวเวอร์ 2 ชั้น 19 ซอยรัชดาภิเษก 7  ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

โทรศัพท์ , แฟกซ์ : 02-692-2575

ติดต่อสอบถาม


LINE official account : @synergysoft

อีเมล (E-mail) : sales@synergysoft

ฝ่ายขาย : 085-323-5453

RELATED LINK


Synergysoft Education Center
Autodesk Authorized Training Center
ศูนย์อบรมการใช้โปรแกรมออกแบบและทดสอบอย่างเป็นทางการจากออโตเดสก์

Synergysoft Online Store
ร้านซอฟต์แวร์ออนไลน์ ชำระด้วยบัตรเครดิตได้

Luvicha
เว็บออนไลน์เทรนนิ่ง เรียนรู้ได้ 24 ชั่วโมง ได้ทุกที่ ทุกเวลา

Revit Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Revit และ BIM ของ Autodesk

Autodesk Inventor Society Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Autodesk Inventor และโปรแกรมออกแบบอุตสาหกรรมของ Autodesk

Autodesk Fusion360 Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Autodesk Fusion360 ในไทย

Synergysoft Education Center fanpage
อัพเดตข่าวสารการอบรม ตารางการอบรมต่างๆ ผ่าน ซินเนอร์จี้ซอฟต์ เอ็ดดูเคชั่น เซนเตอร์ แฟนเพจ

Unity3D Technology Thailand Fanpage
ชุมชนผู้ใช้โปรแกรม Unity3D ด้านงานสถาปัตยกรรมในไทย

Synergysoft Support Portal

บริการหลังการขาย แก้ไขปัญหาต่างๆ จากการใช้โปรแกรม

ร่วมงานกับเรา

Privacy Policy

Copyright 2024 © All Rights Reserved by Synergysoft